โยโย่ เอฟเฟค

อาการโยโย่เอฟเฟคเป็นอย่างไร



ถ้าหากนึกภาพถึง โยโย่ เอฟเฟค ก็บางทีก็อาจจะหนีไม่พ้น ของเล่นเด็กประเภทหนึ่งที่มีวิธีการเล่นเป็นการเหวี่ยงลูกข่างด้วยความแรงต่อจากนั้น โยโย่ ก็จะสามารถเหวี่ยง หมุน และกลับขึ้นมาดังเดิม ซึ่งถ้านำไปเปรียบเทียบกับเรื่องของน้ำหนักนั้นก็คือ การเหวี่ยงตัวขึ้นของน้ำหนักตัว วันหลังการลดน้ำหนักอย่างผิดวิถีทาง นั่นเอง

มีความเข้าใจอันคลาดเคลื่อนถึงความหมายของโยโย่ เอฟเฟค อยู่พอเหมาะ โดยคนทั่วไปมักเข้าใจว่า โยโย่ เอฟเฟค นั้น เป็นปัญหาที่มาจากการพยายามกินยาลดหุ่น ของคนที่มีน้ำหนักเกินเพียงอย่างเดียว แต่ว่าอันที่จริงแล้วนั้น โยโย่ เอฟเฟค ยังนับและสิ่งอื่นๆดังเช่น ผลปรากฏว่าของการพยายามควบคุมการรับประทานอาหาร การงดของกิน การเปลี่ยนจำพวกอาหาร แม้กระทั้งการพยายามเปลี่ยนแปลงนิสัย หรือเวลา การกิน ก็รวมอยู่ด้วย

ชี้แจงง่ายๆโยโย่ เอฟเฟค ก็คือ สภาพการณ์การขาดสมดุลของร่างกาย เช่น ธรรมดามนุษย์เราจะมีการเผาผลาญอาหารเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานให้ร่างกายได้ใช้ประโยชน์ราว 800-1200 แคลอรี่ หากแม้พวกเรากินอาหารเข้าไปวันละ 500 แคลอรี่ นั่นนับได้ว่าร่างกายจะดึงพลังงานที่เราเก็บสะสมไว้ ออกมาใช้วันละ คร่าวๆ 300-700 แคลอรี่

เหตุผลสำคัญๆการเกิดปัญหาโยโย่เอฟเฟค



ผลพวงจาก YOYO Effect นั้น ชอบเกิดขึ้น วันหลังจบการควบคุมอาหารของคนที่ต้องการลดความอ้วน แล้วกลับเข้าไปสู่พฤติกรรมของการบริโภคแบบเดิมๆก่อนหน้า แล้วก็เพิ่มปริมาณการกินของกินอย่างเร็วอย่างยิ่ง จนถึงร่างกายที่คุ้นชินกับการเผาน้อยๆปรับสมดุลได้ไม่ทัน โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ข้อ ดังต่อไปนี้

1.น้ำหนักที่น้อยลงเร็วเกินไป

ความประพฤติปฏิบัติการงดอาหาร หรือ การปฏิบัติอื่นๆที่นำไปสู่การลดน้ำหนักตัวลงอย่างเร็ว สิ่งกลุ่มนี้จะเปลี่ยนแปลงวิธีการเผาผลาญของคุณ ให้จำเป็นที่จะต้องปรับตามเพื่อความอยู่รอด ด้วยเหตุผลดังกล่าวผู้คนส่วนมากมักเจอปัญหาเมื่อกลับมากินอาหารอย่างที่เคย โดยร่างกายจะไม่สามารถปรับพฤติกรรมตามได้ทัน แล้วก็ นำไปสู่ไขมันสะสมส่วนเกินได้

2.ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

หลายคราที่ความอุตสาหะลดความอ้วนตัว แต่ว่าไม่ยินยอมบริหารร่างกายพร้อมกันไปกับการลดน้ำหนัก ในส่วนนี้นับว่าเป็นจุดบกพร่องรวมทั้งบางทีอาจส่งผลให้เกิดสิ่งที่ทำให้เกิดการเกิดปัญหาโยโย่ เอฟเฟคที่ตามมา เหตุเพราะเมื่อคุณอดหรือลดสารอาหารลง โดยขาดการบริหารร่างกาย จะมีผลให้ร่างกายของคุณสูญเสียมวลกล้าม ซึ่งเป็นส่วนที่จะต้องสำหรับการสลายไขมัน กล้ามส่วนมากจะให้คุณภาพอย่างมากต่อการเผาไหม้พลังงาน ช่วยเพิ่มอัตราความเร็วสำหรับในการเผาผลาญ และสามารถช่วยควบคุมสมดุลพลังงานที่สมควรได้ง่ายดายมากยิ่งกว่าเดิม

3.กลับไปใช้พฤติกรรมการกินแบบเดิมๆ

ทุกพฤติกรรมในการอุตสาหะลดน้ำหนัก ทำให้ร่างกายจำต้องปรับสภาพตามไปด้วย เพื่อความอยู่รอด แล้วก็แน่นอนถึงแม้เมื่อใดก็ตามที่คุณ “หยุด” และกลับไปดำรงชีพหรือหันกลับไปทำความปฏิบัติตัวแบบเดิมๆนั้น อย่าลืมว่า ร่างกายควรต้องใช้เวลา ทุกระบบของร่างกายควรมีเวลาในการทำความรู้จักดี เพื่อเตรียมพร้อมกับจำนวนแคลอรี่หรือสารอาหารที่มากขึ้นมาพวกนั้น

อาการที่มีผลกระทบต่อร่างกาย



การที่ร่างกายไปสู่วงจรของน้ำหนักเหวี่ยงขึ้นลงย่อมมีผลต่อสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามที่ได้เกริ่นมา กระตุ้นให้เกิดผลปรากฏว่าตัวอย่างเช่น


• กลับมาอ้วนขึ้นกว่าเดิม เมื่อเราไดเอท มวลไขมันลดลงเร็วอย่างผิดปกติ ฮอร์โมนเลปติเตียนนที่ทำให้พวกเรารู้สึกอิ่มลดลงทำให้พวกเราหิวมากขึ้น หลายคราขึ้น เพื่อชดเชยกับที่ร่างกายมีความคิดว่ามีพลังงานในร่างกายไม่พอต่อการรอดชีวิต ร่วมกับการที่ไดเอทผิดแนวทางการทำให้มวลกล้ามลดน้อยลงร่างกายยิ่งเผาผลาญได้ลดน้อยลงและจากนั้นก็ต้องการเก็บพลังงานไว้ให้ได้มากที่สุด การศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่า 1 ใน 3 ของคนที่ลดความอ้วนแบบผิดทางกลุ่มนี้จะกลับมาอ้วนใหม่ภายในช่วงระยะเวลา 1 ปีแถมน้ำหนักยังมากขึ้นเรื่อยๆมากกว่าตอนก่อนลดหุ่นเสียอีก ทั้งยังการลดน้ำหนักคราวถัดไปจะยิ่งยากขึ้นกว่าเดิม
• ไขมันมากขึ้นเรื่อยๆ สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ในขณะที่น้ำหนักตัวมากขึ้นจากโยโย่ เอฟเฟคต์อาจจะส่งผลให้ไขมันสะสมในร่างกายได้ง่ายมากยิ่งกว่าเดิม ไขมันอาจสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกายแล้วก็อวัยวะภายใน ซึ่งอาจทำให้การลดน้ำหนักครั้งต่อไปทำเป็นยากขึ้นกว่าเดิมเพราะการลดน้ำหนักเร็วเกินความจำเป็นร่างกายบางทีอาจสูญเสียมวลกล้ามไปทำให้ระบบการเผาไหม้ที่เกิดจากร่างกายน้อยลงด้วย (ทดสอบอ่านเนื้อหานี้เพื่อรู้จักกับระบบเผาผลาญและก็แนวทางช่วยเพิ่มอัตราการเผาไหม้ที่เกิดขึ้นจากร่างกาย) โดยยิ่งไปกว่านั้นในกลุ่มของผู้คนที่คุมอาหารและไม่ออกกำลังกายร่วมด้วย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ วิธีแก้เป็นรับประทานอาหารที่มีโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละวัน พร้อมกันกับการบริหารร่างกายแบบใช้แรงต่อต้านอย่างสม่ำเสมอ
ยาลดน้ำหนัก ไม่อันตราย ปัญหาสุขภาพ การละเว้นอาหารหรือทานน้อยไปในตอนต้นของการลดน้ำหนัก ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้ส่งผลทำให้ผิวแห้ง เล็บรวมทั้งผมเปราะบาง ผมตกแตกต่างจากปกติ ภูมิต้านทานของร่างกายอ่อนแอลง เมื่อน้ำหนักตัวมากเพิ่มขึ้นจากอาการโยโย่ ยังส่งผลให้กำเนิดโทษและก็ทำให้เกิดผลกระทบรวมถึงทำให้เกิดโทษและส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อหัวใจแล้วก็ไตอีกด้วย ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงกำเนิดเบาหวานประเภทที่ 2 การที่น้ำหนักขึ้นๆลงๆยังมีผลให้เพิ่มการเสี่ยงการเกิดสถานการณ์ไขมันพอกตับ ภาวะความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ สภาพการณ์สูญเสียแร่ในกระดูกที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในหญิงสูงวัย อีกทั้งความล้มเหลวสำหรับเพื่อการลดหุ่นยังบางทีอาจก่อให้เกิดการสูญเสียความยำเกรงในตัวเอง ความมั่นใจในตัวเอง ความตึงเครียดเรื้อรัง และการกระทำการกินที่ไม่ดีเหมือนปกติ

ผลพวงที่เห็นได้ชัด



การลดปริมาณการกินของกิน โยโย่ เอฟเฟค หรือ การเลิกของกิน อาจก่อให้คุณเข้าใจว่าไขมันได้ถูกลดแล้วก็กำจัดออกไป แม้กระนั้น ไม่เพียงแค่ไขมันเท่านั้นเอง ยังรวมทั้งมวลกล้ามที่ถูกลดรวมทั้งสลายหายไปด้วย ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่คุณกลับมากินอย่างเดิมนั้น ส่งผลการศึกษาวิจัยพบว่า ในส่วนมาก รูปร่างไขมันจะมีมากกว่ารูปร่างกล้ามเมื่อเทียบกันในอัตราส่วน ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมเกิดโทษต่อร่างกายอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าไขมันรอบๆท้องจะเพิ่มรวมถึงมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอันตรายของการเกิดโรคเบาหวาน แล้วก็โรคที่เกี่ยวพันกับระบบไหลเวียนเลือด

ผลพวงของ YOYO Effect ไม่เฉพาะแต่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสถาพทางร่างกายเท่านั้นเอง แม้กระนั้นยังและก็สุขภาพเกี่ยวกับจิตอีกด้วย เพราะว่าส่งผลการศึกษาเรียนรู้วิจัยพบว่า คนที่น้ำหนักเยอะแยะ แล้วหลังจากนั้นก็ขยันหมั่นเพียรลดความอ้วนพวกนั้น จะมีความภาคภูมิในตนเองต่ำลง และ ไม่เป็นที่สบอารมณ์กับร่างกายของตัวเอง คนเหล่านั้นมีการเสี่ยงสูง ที่จะเป็นเหตุให้เกิดการเกิดการเสี่ยง โรคเหงาหงอย หรือ การเกิดภาวะเศร้าหมอง ได้ง่ายดายกว่าธรรมดา และก็หลายครั้งที่ค้นพบว่า เมื่อมีการเพิ่มของน้ำหนักตัวที่มากขึ้น พวกเขาชอบกลายเป็นผู้ที่สูญเสียต่อเลื่อมใส หรือ มีปัญหาทางด้านแรงดลใจที่ต่ำลง ไม่เพียงแค่เฉพาะเรื่องของน้ำหนักตัว แม้กระนั้นยัง รวมถึงชีวิตในด้านอื่นๆทั้งยังการทำงาน การใช้ชีวิตครอบครัว หรือ ครอบครัวอีกด้วย

วิธีการป้องกันแล้วก็การหลีกหนีอาการโยโย่เอฟเฟค



หุ่นงาม สุขภาพแข็งแรง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปลี่ยนแปลงทัศนคติในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักซะใหม่ ไม่ควรอดอาหาร หรือ ทำร้ายร่างกาย แต่น่าจะเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิต วิถีการกิน ปรับนิสัยการกิน เพื่อเลี่ยงจังหวะที่จะเกิด โยโย่ เอฟเฟค โดยสามารถปฏิบัติหรือทำตามอย่างได้ ดังนี้

1. กำหนดจุดมุ่งหมายให้แน่ๆ ตรวจสอบเป้าหมายที่โดยความเป็นจริงของคุณ ทวนตัวเองอยู่เสมอ ว่าเป้าหมายที่ตามที่เป็นจริงของคุณเป็นอย่างไร อาทิเช่น การพยายามลดหุ่นลงอย่างเร็ว เพื่อทันงานแต่งงานของมิตรสหาย อย่างงี้ ถือว่าไม่ใช่สิ่งจูงใจที่ดีสำหรับในการลดอาหาร เนื่องจากว่าอาจจะส่งผลให้มีการลดน้ำหนักเพียงชั่วครั้งคราว รวมทั้ง ไม่ตลอด จะทำให้ยิ่งได้โอกาสอ้วน ในอนาคตได้

2. หลบหลีกการงดอาหาร หลบเลี่ยงการงดของกิน โอ้มายเฮิร์ป ลดน้ำหนัก ได้ดีจริงไหม ทรมาทรกรรมตัวเอง หรือ กระบวนการลดการกินอาหารให้น้อยกว่า 1200 แคลอรี่ต่อวัน ด้วยเหตุว่าร่างกายจะได้รับผลเสียเพราะว่าได้รับสารอาหารที่น้อยเกินไปต่อความต้องการ

3. ลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไป ควรให้เวลาต่อสภาพทางด้านร่างกายในการเบาๆปรับนิสัย โอ้มายเฮิร์ป ลดน้ำหนัก ได้ดีจริงไหม เบาๆลดความอ้วน ไม่สมควรลดหุ่นแบบเร่งร้อนจนกระทั่งอย่างมาก จะทำเป็นผลกระทบในด้านที่เสียหาย รวมถึงทำให้ร่างกายเกิดความเปลี่ยนไปจากปกติตามมาได้

4. ค่อยๆเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน รับประทานอาหารให้ครบหมู่ สิ่งหนึ่งที่ควรจะทำเป็นเป็นอย่างมาก เมื่อคุณหันกลับไปบริโภคตามเดิม มันก็คือ เบาๆปรับพฤติกรรมการกิน ยกตัวอย่างเช่น เบาๆเพิ่มปริมาณระดับแคลอรี่ของของกิน 100-150 แคลอรี่ ต่ออาทิตย์ ไม่ควรกลับไปทานอาหารแบบเยอะๆโดยทันที จะมีผลให้ร่างกายไม่อาจจะปรับพฤติกรรมได้ทัน แล้วก็ กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิด YOYO Effect ได้

5. หมั่นบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มการใช้พลังงาน การบริหารร่างกายอย่างเสมอๆและจากนั้นก็ บ่อยๆ ขั้นต่ำ 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์ จะช่วยคุ้มครอง หรือ รักษา อาการโยโย่ เอฟเฟคได้

หนีให้ห่างจากอาการ ก่อนจะสายเกินแก้



จากที่เข้าใจดีแล้วว่า โยโย่ เอฟเฟค ได้ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากความอยากได้ลดหุ่น อยากได้มีหุ่นดีข้างในระยะสั้น แต่ว่าผลพวงในระยะยาวของโยโยเอฟเฟคนั้น นับได้ว่าเป็นมีความอันตรายและแลกได้ไม่คุ้มเสียอย่างแน่นอน ผลพวงต่างๆที่ตามมามากมาย ทั้งยังปัญหาความอ้วนในระยะยาว โยโย่ เอฟเฟค ปัญหาไขมันสะสมที่มากขึ้น การเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต อื่นๆอีกมากมาย นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมคุณถึงจะต้องหนีห่างให้ไกลจากการการทำต่างๆดังที่กล่าวผ่านมาแล้วไปแล้ว ที่ซึ่งบางทีอาจเอามาของภัยร้าย โยโย่ เอฟเฟค ถ้าเกิดไม่ได้อยากพบเห็นกับโยโยเอฟเฟค ชี้นำว่าควรจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปทีละนิดเดียว เพราะว่าถึงแม้น้ำหนักของคุณจะลดน้อยลงช้า หรือ น้อยก็ตาม แต่ในระยะยาวคุณจะไม่ต้องได้รับผลที่เลวที่อาจจะมีการเกิดขึ้นเช่นเดียวกับ โยโย่ เอฟเฟค อย่างแน่แท้นะครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *